Rational  Prescription  For  Hypercholesterolemia

Using  PBL  And  EBM  Approach

Robbear7 Website Designs

Robbear7 Website Designs

 

 

Index

Preface

Case Scenario

Information

Other Drugs

Indication

Efficacy

Risk

Cost

Prescription

Pat Edu & FU

Rx Conclusion

Conclusion

References

11. สรุปผลการรักษา ( Conclusion  of  Rx)

        11.1 ต้องเปลี่ยนแปลงการวินิจฉัยหรือเปลี่ยนแปลงการรักษาหรือไม่        พิจารณาจากผลการรักษา

                1) สามารถควบคุมระดับไขมันในเลือดได้ตามเป้าหมายและไม่พบผลข้างเคียงจากยา  เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง  เราจึงพิจารณาให้ใช้ยาขนาดเดิมต่อไป

                2) ถ้าหากไม่สามารถควบคุมระดับ cholesterol ในเลือดได้ตามเกณฑ์  พิจารณาหาสาเหตุ เช่นพิจารณาข้อบ่งชี้  ประสิทธิภาพยาและpatient  compliance  แล้ววินิจฉัยโรคใหม่  หรือเพิ่มขนาดของยา (เนื่องจากการลดระดับ cholesterolจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับขนาดของยาที่ใช้) เท่าที่จำเป็นและไม่เกิดผลข้างเคียง  เนื่องจากการเพิ่มขนาดยาอาจทำให้ผลข้างเคียงต่างๆ  เช่น hepatotoxicity , myopathy , GI  irritation เพิ่มมากขึ้นได้  โดยวิธีการป้องกันผลข้างเคียงเหล่านี้อาจทำได้โดยนัดผู้ป่วยมาทำ Liver  function  test และmuscle  enzyme อย่างสม่ำเสมอ  รวมทั้งเพิ่มขนาดยาเท่าที่จำเป็น

เนื่องจากยานี้มีประสิทธิภาพในการลด cholesterolดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นถือว่ายอมรับได้  เนื่องจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นถือว่าน้อยมากและป้องกันได้เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของยา  นอกจากนี้การเปลี่ยนเป็นยาอื่นยังไม่มีความจำเป็นเนื่องจากผู้ป่วยยังไม่เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา  รวมทั้งยานี้ก็มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดระดับcholesterolในเลือด

3) ถ้าเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยานี้ซึ่งทำให้ไม่สามารถเพิ่มขนาดของยาหรือใช้ยานี้ต่อไปได้  ให้หยุดยาแล้วพิจารณาเปลี่ยนยาโดยอาจเปลี่ยนไปใช้ยาในกลุ่ม Bile  acid  sequestrants เช่น cholestyramine ซึ่งมีฤทธิ์ลด plasma  LDL – cholesterol ได้ประมาณ 20% โดยการใช้ยานี้อาจทำให้เกิดอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้  อาเจียน  ท้องผูกได้  นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มระดับของ Triglyceride ในเลือดได้ ประมาณ 5-10% โดยอาจลดความเสี่ยงดังกล่าวโดยการให้ nicotinic  acid ร่วมด้วย  ซึ่งจะช่วยลดระดับ TG ได้ประมาณ 20-50%  โดยเมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของยากับ side  effect แล้วถือว่ายอมรับได้เนื่องจาก side  effectที่เกิดขึ้นมีเพียงเล็กน้อยและผู้ป่วยรายนี้ก็มีระดับ triglyceride ในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ  

 

11.2 ระยะเวลาในการรักษาครบถ้วนแล้วหรือไม่หรือต้องรักษาต่อเนื่อง

        1) เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ไม่หายขาดต้องรับการรักษาตลอดชีวิต  โดยให้นัผู้ป่วยมาพบอยู่สม่ำเสมอเพื่อดูระดับความรุนแรงของโรคว่าสามารถควบคุมได้หรือไม่  และต้องย้ำให้ผู้ป่วยต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary  heart  disease) เป็นต้น

        2)  ถ้าหากผู้ป่วยขาดการติดต่อโดยไม่มา  Follow  up  ตามที่นัดหมายไว้ให้พยายามติดต่อผู้ป่วยโดยอาจเป็นทางไปรษณีย์หรือทางโทรศัพย์เพื่อหาสาเหตุที่ผู้ป่วยไม่ได้มาตามนัดจะได้หาวิธีแก้ไขและนัดหมายครั้งใหม่ต่อไป

        3) หากผู้ป่วยเสียชีวิตให้ค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยโดยอาจทำ autopsy เนื่องจากโรคนี้ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจาก cardiovascular  disease เช่น coronary  heart  disease , stroke เป็นต้น

 

12  ติดตามผลการรักษา27(2)

        กำหนดสถานการณ์ว่าผู้ป่วยได้กลับมาพบท่านตามที่ท่านนัดไว้   ผู้ป่วยให้ประวัติว่า  หลังจากกินยาที่ให้ไปรู้สึกมวนในท้อง  แต่ยังกินยาต่อไปอีก  แต่ก็ยังคงรู้สึกมวนท้องอยู่  จึงหยุดกินยาไปหลังจากกินยาไปทั้งสิ้น 5 เม็ด  อยากจะให้หมอเปลี่ยนยาเพราะสงสัยจะแพ้ยาที่หมอให้

        จากข้อมูลข้างต้นปัญหามวนท้องที่เกิดขึ้นเป็น side  effect  ที่เกิดจากการใช้ยา  แต่จะสามารถหายเองได้หากใช้ยาต่อไปอีกสักระยะ  จึงควรอธิบายทำความเข้าใจกับผู้ป่วยโดยไม่ต้องเปลี่ยนยาหรือdose ที่ให้