Using PBL And
EBM Approach |
||
|
|
|
|
2.
พิจารณาประสิทธิภาพของยา
(Efficacy) 2.1 ยามีอะไรบ้าง
แบ่งเป็นกี่กลุ่ม
แบ่งกลุ่มยาอย่างไร
ยาแต่ละกลุ่มมีอะไรบ้าง2(4), 9(3),21(1) ยาลดไขมันในเลือดมีอยู่หลายกลุ่ม
แต่ละกลุ่มมีคุณสมบัติและฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1) ยาในกลุ่มที่ลด
Triglyceride ในเลือดเป็นส่วนใหญ่
1. Nicotinic acid
ตัวอย่างยาในกลุ่ม
เช่น Immediate release crystalline nicotinic
acid (1.5-3gm) , extended
release nicotinic acid (Niaspan R ) (1-2g) , sustained release
nicotinic acid (1-2g)
2. Fibric acid
derivative ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้
เช่น Gemfibrozil (ค) (600 mg BID) , Fenofibrate (200mg) , Clofibrate (1,000
mg BID) 2)
ยาในกลุ่มที่ลด
Chloresterol
, LDL-cholesterol ในเลือดเป็นส่วนใหญ่ 1. HMGCoA reductase
inhibitors (statins) ตัวอย่างยาในกลุ่มเช่น
Lovastatin
(20-80 mg) , Pravastatin (20-40 mg) , Simvastatin (ง) (20-80 mg)
,Fluvastatin (20-80 mg) , Atorvastatin(ง)(10-80mg) , Cerivastatin(0.4-0.8 mg) 2.
Bile acid Sequestrants ตัวอย่างยาในกลุ่ม
เช่น Chloestyramine(ง)(4-16g) , Colestipo (5-20g) , Colesevelam
(2.6-3.8g) 3.
Probucol ตัวอย่างยาในกลุ่ม
เช่น probucol หมายเหตุ ทั้งยาในกลุ่ม
ก.
และ
ข.
ยังมีผลต่อระดับไขมันชนิดอื่นๆในเลือดด้วย
ได้แก่ LDL-C , HDL-C , TG , Cholesterol เป็นต้น 2.2 กลไกในการออกฤทธิ์ของยาในแต่ละกลุ่ม
7(3),9(3),22(1) 1) Nicotinic acid
nicotinic acid
ลดการสร้าง
triglyceride
ในตับทำให้การหลั่ง
VLDL ลดลง
เป็นผลทำให้การสร้าง
IDL และ LDL นอกจากนี้เชื่อว่า
nicotinic acid
เพิ่ม
clearance ของ VLDL ผ่านทางเอนซัมย์
lipoprotein lipase
เพิ่มปริมาณของ
HDL รวมทั้งHDL-cholesterol และ
nicotinic acid
ดูดซึมได้ดีจากทางเดินอาหารและถูกเปลี่ยนที่ตับโดยการ
conjugate
กับ
glycine
ได้
nicotinuric acid
2) Fibric
acid derivative 1. Bezafibrate - เพิ่มการสลายของ
triglyceride
ใน
lipoprotein
โดยทำให้เอนซัมย์
lipoprotein lipase
และ hepatic glyceride
hydrolase มีฤทธิ์มากขึ้น - ทำให้การทำงานของLDL receptor
เพิ่มขึ้นเนื่องจาก
bezafibrate ไปลดการทำงานของ
hydroxymethylglutaryl CoA 2. Gamfibrozil (A) - ยับยั้งการเกิด
lipolysis
ของ triglyceride ในเนื้อเยื้อ ไขมัน (adipose tissue) - ลดการจับ fatty acid ของตับ ทั้ง 2 กลไกทำให้มี fatty acid มาสู่ตับน้อย
ผลคือการสร้างและการหลั่ง triglyceride ลดลง
ทำให้การสร้าง
lipoproteinก็น้อยลงด้วย 3)
Probucol กลไกการออกฤทธิ์ของ
probucol
ยังไม่ทราบชัดเจนว่าไปลด
plasma LDL- cholesterol ได้อย่างไร
เชื่อว่ายาไปยับยั้งการสร้างสารพวก sterol ในร่างกายและเพิ่มการขนส่ง
cholesterol จากส่วนต่างๆของร่างกายกลับมาสู่ตับ
ส่วนการลดHDL นั้นเชื่อว่า probucolไปลดการสร้าง นอกจากนี้เชื่อว่า
probucol
สามารถยับยั้งการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด
(atherogenesis)
เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นantioxidant สามารถป้องกัน lipoprotein ไม่ให้เกิด
hydroperoxidation จึงไม่เกิด
form cell
ที่ผนังของหลอดเลือด
(arterial intima) ข้อเสียจากprobucol นอกจากจะทำให้
plasma HDL ลดลงแล้วยังพบว่าตัว probucol มีคุณสมบัติเป็น
lipophilic compound
สามารถอยู่ในadipose tissue
และกระแสเลือดได้เป็นเวลานานหลายเดือน
แม้ว่าจะหยุดการใช้ยาไปแล้ว เมื่อรับประทานprobucol ยาจะถูกดูดซึมน้อยกว่า
10% ส่วนใหญ่จะถูกขับถ่ายออกทางน้ำดีและอุจจาระ 4)
Bile acid-binding resin (Cholestyramine (ง) and Colestipol) เนื่องจาก resin เหล่านี้ไม่ถูกดูดซึมจากทางเดินอาหาร
เมื่ออยู่ในลำไส้จะจับกับ bile
acid (ลดการดูดซึมกลับของ
bile acid) และขับเอากรดเหล่านี้ออกทางอุจจาระ
จากการที่ขาด bile acid
มีผลทำให้
cholesterol
ดูดซึมได้น้อยและขับออกทางอุจจาระ
(neutral sterol)
จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ
hepaticmetabolism เพื่อรักษา
homeostasis ของร่างกาย
คือ 1.
ทำให้
LDL receptor
ที่ผิวเซลล์เพิ่มจำนวนมากขึ้นเพื่อที่จะจับ
LDL จาก
plasma ทำให้ plasma LDL-C ลดลง 2.
ทำให้การทำงานของ
3- hydroxy-3methylglutaryl CoA (HMG
CoA) reductase เพิ่มขึ้น
เอนซัมย์นี้เป็น
rate controlling
enzyme ในการสังเคราะห์cholesterol ทำให้
การสังเคราะห์cholesterol เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้เปลี่ยนไปเป็น bile acid 5)
HMG-CoA reductase inhibitors (statins) ยาในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยการสร้าง
cholesterol
ในตับโดยเป็นสารยับยั้งการทำงานของเอนซัมย์
HMG
CoA reductase (3-
hydroxy-3methylglutaryl CoA reductase) ซึ่งเป็น
rate controlling
enzyme ของการสร้าง
cholesterolที่ตับ
ทำให้การสร้าง
cholesterol ลดลง ผลที่ตามมาคือ
ทำให้มีการเพิ่มปริมาณของ
LDL receptors ที่ผิวเซลล์ของตับเพื่อที่จะเพิ่มการจับเอา
LDL จาก
plasma ทำให้
plasma LDL ลดลง 2.3
มีความจำเป็นต้องใช้ยามากกว่า
1
ขนาดหรือไม่ ไม่มีความจำเป็นในตอนเริ่มต้น เนื่องมาจากผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้สูงอายุ การใช้ยาหลายชนิดอาจมีโอกาสเกิด
Drug interaction และ side effect เพิ่มจากปกติได้
รวมทั้งจาก clinical guideline เสนอให้มีการใช้ยา Simvastatin เป็น initial Drug โดยถ้าไม่ได้ผลค่อยพิจารณาเปลี่ยนยาหรือเพิ่มยาตัวอื่นต่อไป 2.4 ยาที่ท่านเลือกใช้มีกลไกการออกฤทธิ์ที่สอดคล้องกับกลไกลการเกิดโรคหรือไม่อย่างไร ยาที่เราเลือกใช้
(simvastatin)
อยู่ในกลุ่ม
HMG CoA
reductase inhibitor ซึ่งจะยับยั้ง enzyme HMG
CoA reductase ในตับซึ่งเป็น enzymeที่ใช้ในการสร้าง
cholesterol ซึ่งเมื่อใช้แล้วจะมีผลให้
cholesterol
และ
LDL-
cholesterol ลดลง
ซึ่งสอดคล้องกับกลไกการเกิดโรคที่มีการเพิ่มการสร้าง cholesterol และ LDL ทำให้มีปริมาณสูงขึ้นในเลือด 2.5
มีวิธีการให้ยาที่เหมาะสมอย่างไร6(3),7(4),22(2),23(1),23(2) 1)
simvastatin(ง) เพื่อให้ระดับยาในเลือดสูงเพียงพอ
ยาsimvastatin ที่ให้ในรูป
oral form
จะอยู่ในรูป inactive
lactone prodrugs ที่จะถูก
hydrolyze ในระบบทางเดินอาหารได้เป็น
active beta- hydroxyl derivatives จากการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่า simvastatin ในรูป
oral dose มีการดูดซึมได้ประมาณ
85%ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับการดูดซึมของยาในผู้ป่วย
โดยยาชนิดนี้มี
first-pass metabolism ที่ตับสูงมาก
ทำให้เหลือระดับยาในรูป active form (metabolites) กระแสเลือดน้อยกว่า
5% ของ
oral dose ซึ่งก็มีฤทธิ์เพียงพอในการลดระดับไขมันในเลือด
โดยมากกว่า
95% จะจับกับโปรตีนในกระแสเลือด
โดยระดับยาจะมีค่าสูงสุดในเลือดเมื่อเวลาผ่านไป
1-2 ชั่วโมงหลังทานยา
โดยจะมีค่าครึ่งชีวิต
(half life) ในเลือดประมาณ1.5-2 ชั่วโมง ยา simvastatin ขับถ่ายส่วนใหญ่ผ่านทางตับในรูปของน้ำดีและอุจจาระ
และน้อยกว่า
13% ของmetabolites ถูกขับถ่ายทางปัสสาวะ 2) ตัวยาอื่นๆ 1.
Nicotinic acide เราให้ในรูป
oral form เนื่องจากยานั้นดูดซึมได้ดีจากทางเดินอาหาร (เกือบ
100%) โดยควรรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันทีเนื่องจากยานั้นมีฤทธิ์ระคายเคืองทางเดินอาหารมาก 2.
Bile Acid Sequestrants (Cholestylamine) เราให้ในรูป
oral form
เนื่องจากเราต้องการให้มันไปออกฤทธิ์ในระบบทางเดินอาหาร
โดยยาตัวนี้ไม่มีการ Absorb เข้าสู่ร่างกาย 3.
Fibric acid เราให้ในรูป oral form
โดยยาในกลุ่มนี้จะAbsorb ได้รวดเร็ว
(>90%)
เมื่อรับประทานยาพร้อมอาหารและจะลดลงเล็กน้อยเมื่อทานยาขณะท้องว่าง 4.
Probucol ให้ในรูป oral form
เนื่องจากดูดซึมได้ดีจากทางเดินอาหาร 2.6
ประสิทธิภาพ
(efficacy)
โดยทั่วไป
2(4) 1)
simvastatin มีการใช้ยานี้เป็น
first line
drug โดยนิยมใช้ในผู้สูงอายุ
มีประสิทธิภาพดีที่สุดใน Hypercolesterolemia
โดยจะเป็นแบบ
dose response
relationship (มีประสิทธิภาพแม้ใช้ยาในขนาดต่ำและประสิทธิภาพจะสูงขึ้นเมื่อมีการเพิ่มขนาดยา)โดยยานี้มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือด ดังนี้ 1.
สามารถลดระดับ
LDL-C ได้ประมาณ
18-55% 2.
สามารถเพิ่มระดับ
HDL-C ได้ประมาณ
5-15% 3.
สามารถลดระดับ
Triglyceride
ได้ประมาณ
7-30% 4.
สามารถลดระดับ
Total cholesterol ได้ประมาณ
20-30% จะเห็นได้ว่ายาในกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดระดับของ LDL-cholesterol ซึ่งเป็นprimary goal ของการรักษา
Hypercholesterolemia ทั้งใน primaryและsecondary prevention มีประโยชน์ในการลด morbidity และ
mortality
จาก Cardiovascular ต่างๆ
เช่น stroke , coronary
heart disease เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่ายานี้แม้ว่าใช้ไปนานๆก็จะไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับยาอื่นในการเสริมฤทธิ์การลด
cholesterol
ของยาตัวอื่นได้อีกด้วย 2)
ยาตัวอื่นๆ 1.
bile acid sequestrants Cholestyramin มีหลักฐานที่แสดงว่าสามารถใช้ยานี้เป็น first
lineในการรักษา
Hypercholesterolemia ในเด็กได้ผลดีเนื่องจากยานี้ไม่ถูกดูดซึม
จึงเกิด side effectน้อย ยานี้มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือด
ดังนี้ -
สามารถลดระดับ LDL-C
ได้ประมาณ 15-30% -
สามารถลดระดับ HDL-C
ได้ประมาณ 3-5% -
ไม่มีผลหรืออาจเพิ่มระดับ
TG มีประโยชน์ในการลด morbidity และ
mortality
จาก Cardiovascular ต่างๆ
เช่น stroke , coronary
heart disease เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่ายานี้แม้ว่าใช้ไปนานๆก็จะไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับยาอื่นในการเสริมฤทธิ์การลด
cholesterol
ของยาตัวอื่นได้อีกด้วย 2.
Nicetinic acid ยาตัวนี้มีผลน้อยในการลดระดับ cholesterol โดยมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือด ดังนี้ - สามารถลดระดับ
LDL-C ได้ประมาณ
5-25 % - สามารถลดระดับ
HDL-C ได้ประมาณ
15-35 % - สามารถลดระดับ
TC ได้ประมาณ
20-50 % มีประโยชน์ในการลด morbidity และ
mortality
จาก Cardiovascular ต่างๆ
เช่น stroke , coronary
heart disease เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่ายานี้แม้ว่าใช้ไปนานๆก็จะไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับยาอื่นในการเสริมฤทธิ์การลด
cholesterol
ของยาตัวอื่นได้อีกด้วย 3. Fibric
acid ยาตัวนี้มีผลน้อยในการลดระดับ cholesterol โดยมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือด ดังนี้ - สามารถลดระดับ
HDL-C ได้ประมาณ
10-20 % - สามารถลดระดับ
TGได้ประมาณ
20-50 % - สามารถลดระดับ
HDL-C ได้ประมาณ
5-20 % (โดยอาจเพิ่ม
LDL-Cได้
ถ้าผู้ป่วยมี
TG สูง) มีประโยชน์ในการลด morbidity และ
mortality
จาก Cardiovascular ต่างๆ
เช่น stroke , coronary
heart disease เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่ายานี้แม้ว่าใช้ไปนานๆก็จะไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง รวมทั้งสามารถใช้ร่วมกับยาอื่นในการเสริมฤทธิ์การลด
cholesterol
ของยาตัวอื่นได้อีกด้วย 3)
Combination พบว่าการ
combine
ยาตัวต่างๆในกลุ่ม เช่น Cholestyramine
+ statin Cholestyramine
+ fibrate Statin
+ fibrate (ระวัง
Drug interaction) etc. พบว่ามีผลลดความดันได้ดีกว่ายาเดี่ยวๆ
และช่วยหลีกเลี่ยงการใช้ High
Dose Monotherapy ได้ 2.7
ประสิทธิภาพ
(Efficacy)
ของยาทางคลีนิค(clinical trial) 24(1),25(1),26(1),32(1),36(1),37(1) 1)
จากการทำวิจัยในปี
ค.ศ. 1999 โดยการทำ
systemic review
และ
meta-analysis24(1)
ของ
randomized controlled
trials ในหลายๆกลุ่มอายุ
เทียบกับ placebo โดยใช้รายงานการศึกษา
17 เรื่อง
(ผู้ป่วย
21,303 คน) พบว่าการใช้ยา
statins
มีผลดังนี้ 1. มี odd ratioสำหรับall cause
mortatityเท่ากับ0.76 (95% CI , 0.67-0.86) 2.
มี
odd ratio สำหรับ
fatal MI เท่ากับ
0.61
(95% CI , 0.48-0.78) 3.
มี
odd ratio สำหรับ
non fatal
MI เท่ากับ
0.69
(95%CI , 0.54- 0.88) 4.
มี
odd ratio สำหรับ fatal stroke
เท่ากับ
0.77(95%CI
, 0.57-1.04) 5.
มี
odd ratio สำหรับ nonfatal stroke เท่ากับ 0.69(95%CI ,
0.54-0.88) 6.
มี
odd ratio สำหรับangina เท่ากับ
0.70(95%CI
, 0.65-0.76) สรุปได้ว่าผู้ป่วยในหลากหลายกลุ่มอายุที่ได้รับ
statins
จะลดอัตราการตายและ
major cardiovascular events ได้ประมาณ
20-30% เทียบกับ
placebo 2)
จากการวิจัยในปี
ค.ศ. 2000 โดยการทำ
meta analysis 25(1) ของ
9 รายการศึกษาใช้ผู้ป่วยหลากหลายกลุ่มอายุที่เป็น
Hypercholesterolmia 2,819 คน
ที่ได้รับยา simvastatin 40 หรือ
80 mg เป็นเวลา
36 ถึง
38 สัปดาห์
โดยวิธี randomized ,
multicenter , controlled , double-blind , parallel-group design
พบว่า
สัปดาห์ที่ 24 ค่า
mean percentage
reductions of coronary artery
disease(95% confidence intervals) ของ LDL-C สำหรับยา
40 และ
80
mg คือ –39.8% (-40.9
to –38.7) และ –45.7% (-46.5 to –45.0) ตามลำดับ
โดยมีค่า p < 0.001
between groups นอกจากนี้ยังพบว่า simvastatin 80
mg มี
comparable efficacy
and safety profile
in women and
men as well
as in non-elderly
and elderly person
สรุปผลการวิจัยได้ว่า
simvastatin 80
mg มีผลในการลด
LDL-C และ
triglyceride เปรียบเทียบได้กับ
40
mg dose โดยมี excellent safety
and tolerability profile ในผู้ป่วยหลากหลายกลุ่มอายุ 3)
มีการศึกษาใน
ปี ค.ศ.1997 โดยวิธี meta-analysis และ literature review 26(1)โดยดูผล long term ของยาในกลุ่ม statins ในการยับยั้ง mortality และ morbidity ของ
coronary heart
disease ในผู้ป่วยหลากหลายกลุ่มอายุ ใช้ 52 randomized , double masked
clinical trial with
at least 25 per
treatment arm พบว่า
ยาในกลุ่ม statins มีประสิทธิภาพในการลดระดับ
blood cholesterol
โดย
simvastatin
25 mg/day สามารถลดระดับ
LDL-C ได้
22.9% และลดระดับ
total cholesterol ได้ 15.7% ส่วนsimvastatin 40
mg/day สามารถลดระดับ
LDL-C ได้
40.7% และลดระดับ
total cholesterol ได้ 29.7% ตามลำดับ
สรุปได้ว่าในlong term ยาsimvastatin ทั้ง 25 mg/day และ
40
mg/dayมีประสิทธิภาพในการลดระดับ
cholesterol
, LDL-C ได้จริง 4) นอกจากนั้นยังมี
systemic review ที่เป็น randomized ,
double blind ในปี 1995 จากBandofier มีค่า NNT สำหรับ
Lipid lowering
drug ใน primary prevention
ดังนี้ NNT
(7 trials) MI or
death 69
(54-99) MI 78 (60-121) CV death 347
(209-1980) All death 931
(212-nobenefit) และพบว่ามีค่า
NNT น้อยลงอีกใน secondary prevention
ดังนี้ NNT All Diet
only HMG-CoA reductose
(7 trials) inhibitor
(9 trial) MI or
CV death 16 15 15 (13-19) MI 28 23
23 (18-31) cv death 33
53 44 (34-67) All death 37
41 37 (28-58) จึงน่าจะสรุปได้ว่า การใช้ Lipid Lowering
therapy (diet ,
phamacoceuticals) มีประโยชน์จริง 5) มีอีกการศึกษาของ
4S 37(1)
ในปี
1997 ใช้4,444 men and
women ทำการศึกษา
4.5 ปี โดยใช้ randomized control
trial เทียบประสิทธิภาพ
ระหว่าง simvastatin กับ placebo พบว่า simvastatin ลด TC ได้
25 % ลดLDL-Cได้
35% เพิ่มHDL-C ได้
8% และยังลดCHD death , stroke , Total mortality , CHD death + non
fatal MI ได้ 42% , 30%, 30%และ24%ตามลำดับ สรุป simvastatin มีผลในการลดTC , LDL-C ได้รับจริงรวมทั้งยังสามารถลด cardiovascular complication ได้อีกด้วย 6) มีcochrane
abstract36(1) ในปี2000โดยใช้ผู้ใหญ่จากประชากรทั่วไป
,
Occupational groups or
high risk groups โดย review 10
trials พบว่า
การใช้ multiple risk
factor intervention ทั้งลด BP , serum cholesterol , เลิกสูบบุหรี่ พบ odds
ratio for total
and coronary heart
disease mortality เท่ากับ
0.97
(95% CI , 0.92-1.02)และ 0.97(95% CI , 0.88-1.04) ตามลำดับ สรุป multiple
risk factor intervention ที่ใช้กับgeneral popular
ซึ่ง low risk จะมีผลน้อยต่อการลด mortality rate
จาก
coronary heart
disease 7)
จาก TRIP Database41(1) ในการศึกษาแบบ randomised placebo-control trial ใช้ผู้ใหญ่ชาวUK 20,536 คน
อายุระหว่าง
40-80 ปี
ที่มีcoronary
disease , other occlusive arterial
disease or diabetes โดยให้
40
mg simvastatin daily แบบ randomly
(compliance 85%) หรือ placebo โดยใช้เวลาtreatment 5 ปี
พบว่ามีการลด All cause
mortality coronary death
rate stroke Simvastatin 1328(12.9%)/10269 587(5.7%) 444(43%) placebo 1507(14.7%)/10267 707(6.9%) 585(5.7%) p 0.0003 0.0005 <0.0001 significant 18%
(SE5) มีผลลดการเกิดครั้งแรกของ
major vascular
event ได้
24%
(SE3 ; 95% CI 19-28) นอกจากนี้ยังพบ
myopathy
ประมาณ
0.01% และไม่พบ side effect
ที่เกี่ยวข้องกับ cancer สรุป simvastatin มีผลช่วยลดอัตราการเกิด
myocardial infarction , stroke , revascularization ได้ประมาณ
1ใน4 (25%) 8) มีอีกการศึกษาของ
4S42(1)
เกี่ยวกับการใช้ simvastatin ใน 4,444 คน ที่มีhypercholesterol and
angina pectoris or
prior MI พบว่า
จะช่วยลดTotal mortality (30%) , CHD mortality (42%) , nonfatal MI (37%)
โดยเปรียบเทียบกับ placebo เป็นเวลา
5.4 ปี สรุปความคิดเห็นของทั้งหมด จาก evidence based ต่างๆที่มีข้างต้น ทั้ง meta-analysis ,
double blind , randomized control
trials , systemic review และ cochrane พบว่า
ยาsimvastatin มีประสิทธิภาพจริงในการลด blood
cholesterol และ
LDL-cholesterol
ซึ่งจะส่งผลช่วยลดการเกิด
morbility
และ
mortality
จาก
cardiovascular disease ต่างๆ ทั้งcoronary heart
disease , stroke , etc |
|